อัปเดตเทรนด์การลงทุนสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย เริ่มต้นไว เกษียณอายุเร็ว

อัปเดตเทรนด์การลงทุนสำหรับนักศึกษา

“การลงทุน” เครื่องมือที่ช่วยสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว ยิ่งวางแผนการใช้เงินเร็วเท่าไหร่ยิ่งทำให้มีโอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันการลงทุนจึงกลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงง่ายทำให้นักศึกษามหาวิทยาลัยก็สามารถเริ่มต้นวางแผนการเงินและการลงทุนได้ 

  1. เครื่องมือลงทุนสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย
  1. การลงทุนแบบ Passive Income การลงทุนแบบ Passive income เป็นเทรนด์ยอดนิยมในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัย เพราะเป็นการลงทุนที่สามารถเลือกการใช้เงินทุนและเลือกความเสี่ยงได้ตามฐานะทางการเงินของตัวเอง เช่น การออมเงินในบัญชีเงินฝาก, เงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล, ประกันสะสมทรัพย์, ตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมตราสารหนี้, อสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนรวมอสังหาฯ และหุ้น หรือกองทุนรวมหุ้น
  1. การลงทุนที่รับผิดชอบต่อสังคม (Socially Responsible Investment : SRI) เป็นกองทุนที่มุ่งเน้นลงทุนในกิจการที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนตามหลักสากล เช่น SDGs UN Global Compact เป็นต้น เช่น นโยบายการลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน กลยุทธ์การลงทุน ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยจุดเด่นในการลงทุน SRI Fund คือ เป็นการลงทุนในหลักทรัพย์ของกิจการที่เน้นความยั่งยืนเป็นหลักและเป็นการลงทุนที่ช่วยผลกระทบเชิงบวกทางสังคม พร้อมทั้งได้ผลประโยชน์จากเงินปันผลด้วย
  1. สกุลเงินดิจิทัล Cryptocurrency สกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin หรือ Ethereum ฯลฯ เป็นการลงทุนที่มีได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบันเนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนสูง แต่มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน ผู้ที่สนใจควรศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อนลงทุน

สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยที่รู้แล้วว่าอยากลงทุนในเครื่องมือแบบไหน หรือเครื่องมือแบบไหนตอบโจทย์กำลังทรัพย์ของตัวเอง เคล็ดลับการลงทุนต่อไปนี้จะทำให้นักศึกษาในวันนี้กลายเป็นคนสูงวัยที่สุขสบายในวันหน้า

3 เคล็ดลับการลงทุนของนักศึกษามหาวิทยาลัย

  • การลงทุนไม่ต้องเยอะ แม้ว่าจะมีนักศึกษาจำนวนมากที่มีกำลังทรัพย์พอต่อการลงทุนในเครื่องมือที่มีความเสี่ยงสูงได้ แต่หากยังไม่เคยลงทุนมาก่อนควรเริ่มจากการลงทุนด้วยเงินทุนที่ไม่เยอะเกินไป เช่น 500 – 1,000 บาท/เดือน เป็นต้น เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในแต่ละขั้นตอนของการลงทุน รวมถึงการลงทุนด้วยเงินจำนวนน้อย ๆ แต่สามารถลงทุนต่อเนื่องในระยะยาวย่อมส่งผลดีมากกว่า 
  • กระจายความเสี่ยง ควรทดลองลงทุนในเครื่องมือที่มีความหลากหลาย เช่น หุ้น พันธบัตรและสินทรัพย์อื่นๆ เพราะนอกจากจะทำให้เข้าใจเครื่องมือในการลงทุนแต่ละแบบมากขึ้นยังเป็นการกระจายความเสี่ยงด้วย
  • เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุน ในปัจจุบันความรู้เรื่องการลงทุนไม่ใช่เรื่องที่เข้าถึงยากอีกต่อไป เพราะเราสามารถเรียนรู้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้ เช่น Youtube, Facebook, Tiktok หรือ Twitter เป็นต้น ความรู้เรื่องการลงทุนจะทำให้เกิดการตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้นและทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดียิ่งกว่าเดิม

การลงทุนเป็นเครื่องมือช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต แต่ควรลงทุนต่อเนื่องในระยะยาว ทำให้การเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่ตอนที่เป็น