ลงทุนอย่างไรให้มีโอกาสรอดมากกว่าเจ๊ง

ลงทุนอย่างไรให้มีโอกาสรอดมากกว่าเจ๊ง

การลงทุนทำธุรกิจทุกประเภท ผู้ลงทุนย่อมคาดหวังให้ธุรกิจเติบโตได้ดี เจริญรุ่งเรือง มีลูกค้าเก่าและใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ใช่ทุกรายจะได้ตามที่หวัง เรามาดูกันว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจแนะนำหลักการลงทุนอย่างไรให้มีโอกาสรอดมากกว่าเจ๊ง

1.ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจถ่องแท้
การทำธุรกิจนั้นต้องเริ่มจากสิ่งที่ตนเองเข้าใจเป็นอย่างดี เช่น การลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ควรศึกษาระบบบัญชีของแต่ละหุ้นก่อนลงทุน เลือกบริษัทที่คุ้นเคย หรือหากลงทุนเปิดโรงงานทำกิจการของตัวเองก็ต้องรู้อย่างลึกซึ้งตั้งแต่การเลือกสถานที่เพาะปลูก คัดเลือกคุณภาพวัตถุดิบ การสร้างมาตรฐานกระบวนการผลิต การทำบัญชีและภาษี การส่งเสริมการตลาด การจัดส่ง ฯลฯ เพื่อให้เงินทุนที่จ่ายไปมีโอกาสได้ผลกำไรกลับมามากที่สุด

2.หาแหล่งเงินทุนที่ดอกเบี้ยต่ำ
ปัจจุบันมีสถาบันการเงินที่สนับสนุนการลงทุนของผู้ประกอบการรายใหม่ในช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำแผนการลงทุนและให้เงินลงทุนแบบคิดดอกเบี้ยต่ำ ผู้ที่ต้องการประหยัดต้นทุนการทำธุรกิจและอยากได้คำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ ควรเข้าหาสถาบันเหล่านี้เพื่อศึกษาข้อมูล จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ส่วนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ควรใช้เงินออมเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้กู้เงินหรือจำนำจำนองของมีค่าเพื่อนำเงินมาเล่นหุ้น เพราะมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกปรับสูญเสียทรัพย์สินหากไม่เป็นไปตามแผนที่คาดไว้

3.มีระบบการจัดการที่ดีรอบด้าน
ระบบจัดการที่ดี หมายถึง การวางแผนธุรกิจที่มีทั้งระยะสั้น กลางและยาวอย่างเป็นรูปธรรม การควบคุมต้นทุนและคุณภาพของสินค้าอย่างรัดกุม การทำระบบบัญชีเบิกจ่ายและระบบภาษีที่รอบคอบ การวางแผนการตลาดที่ต้องจัดสรรงบประมาณแยกไปต่างหาก ฯลฯ หากทำได้อย่างเหมาะสม จะมีโอกาสที่ธุรกิจจะรอดมากกว่าเจ๊ง เพราะเมื่อพบความผิดปกติจะแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที

4.ลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์
หากต้องการทดลองบริหารงาน หรืออยากจำกัดความเสี่ยงให้มากที่สุด ควรเลือกลงทุนในธุรกิจที่มีผู้ทำเอาไว้เป็นแบบอย่างแล้ว นั่นคือ การซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือแรกเข้าหลักพันถึงล้าน เช่น ธุรกิจขายอาหาร ธุรกิจปั๊มน้ำมัน สินค้าแฟชั่น ฯลฯ ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญในการกำกับดูแลและเป็นที่ปรึกษาให้แก่คุณได้

5.การตลาดออนไลน์
ในปัจจุบันผู้คนนิยมซื้อสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องเปิดเพจในเฟซบุ๊กเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และต้องโฆษณาหรือทำ SEM (search engine marketing) เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์เป็นช่วง ๆ กระตุ้นให้ผู้คนรู้จักแบรนด์ ทั้งนี้ ควรจ้างแอดมินประจำเพจ เพื่อให้บริการตอบกลับลูกค้าด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งจะสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าได้อย่างมาก

จะเห็นได้ว่า การทำธุรกิจให้มีโอกาสรอดมากกว่าเจ๊ง ต้องอาศัยกระบวนการเรียนรู้และวางแผนหลายด้านพร้อมกัน ซึ่งต้องมีความอดทนและมุ่งมั่น จึงจะมีผลตอบแทนกลับมาตามที่ต้องการและป้องกันความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ได้