มือใหม่หัด ลงทุน อะไรดี ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

ปัจจุบันการฝากเงินเพื่อกินดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวอาจให้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่ามากเท่าใดนัก โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อที่นับวันยิ่งจะสูงขึ้น จึงมีหลายคนต่างคิดและแสวงหาการ ลงทุน เพื่อให้ผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจมีชีวิตที่ดีและสามารถเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ

การลงทุน มีความเสี่ยงเสมอ?

จริงหรือไม่ที่มีคนบอกว่าการ ลงทุน มีความเสี่ยงเสมอ คำตอบคือ จริง! โดยเฉพาะการลงทุนโดยปราศจากความรู้ แม้แต่การฝากเงินในธนาคารยังเสี่ยงเลย ลองนึกภาพการฝากเงินไว้ในบัญชีธนาคาร 100,000 บาท แล้วได้อัตราดอกเบี้ย 0.25 สิ้นปีจะได้ดอกเบี้ยเพียง 250 บาท เท่านั้น หากมองในมุมนักลงทุนที่มีความรู้การลงทุน 1 แสนบาทแล้วได้กำไรเพียง 250บาท/ปี ถือเป็นการลงทุนที่ล้มเหลวและมีความเสี่ยงมาก จึงอดคิดไม่ได้ว่าแล้วจะลงทุนอะไรดีใรสภาพเศรษฐกิจแบบนี้

ก่อนที่จะไปลงทุนในสิ่งต่างๆ ที่มักจะมี เค้า บอกว่าให้ผลตอบแทนดี เดือนละ 10-20% หรือคืนทุนภายใน 3-5 เดือน ที่เหลือเป็นกำไร ควรศึกษาหรือหาข้อมูล ความรู้ ของสิ่งที่จะไปลงทุนเสียก่อน ยอมเสียเวลาสักนิดเพื่อที่จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง

แล้ว ลงทุน อะไรดี ที่ให้ผลตอบแทนสูง

การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงย่อมแลกมากับความทุ่มเททั้งแรงกายและแรงเงิน เพราะอยู่ดี ๆ คงไม่มีใครนำเงินลงทุนจำนวนมากมาให้ได้ง่าย ๆ นอกจากมิจฉาชีพ

  1. ลงทุนขายของ

การขายของหรือขายสินค้า ใช่ว่าใครจะสามารถขายแล้วทำให้รวยหรือมีกำไรในพริบตา หากแต่ต้องศึกษาสินค้าและทำการตลาดอย่างหนักหน่วงจึงจะประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นจงมองไปที่เทรนและส่วนต่างระหว่างต้นทุนกับกำไร หากได้ทำเลดี มีทักษะการขายเยี่ยม บอกเลย ยอดขายปัง

  1. ลงทุนในหุ้น

เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็นำมาซึ่งความเสี่ยงถึงขั้นหมดตัวได้ เนื่องจากการลงทุนในหุ้นจะต้องเป็นคนที่ศึกษาหาความรู้ในการอ่าน วิเคราะห์และศึกษาในเรื่องของงบการเงินตลอดจนวิเคราะห์ตลาดออกว่าทิศทางของหุ้นที่สนใจนั้นจะวิ่งไปในทิศทางใดและหากราคาถึงเป้าหมายจะทำอย่างไร เพราะต่อให้หุ้นดี งบสวย มีความมั่นคง ราคาอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็เป็นได้

  1. กองทุนรวม

เป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการนั่งวิเคราะห์หุ้นด้วยตนเอง แต่ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอ แม้จะน้อยกว่าการเล่นหุ้นด้วยตนเอง แต่ก็ปลอดภัยในระดับหนึ่ง เพราะกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนที่ของวิเคราะห์และคัดกรองหุ้นมาเข้าพอตตามวัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุนอยู่ก่อนแล้ว จึงทำให้นักลงทุนมีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นด้วยตนเอง

  1. ฟอเร็กซ์ 

การซื้อขายเงินตราและทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราแลกเปลี่ยน แม้จะให้ผลตอบแทนที่สูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะคนที่ปราศจากความรู้ การโอเวอร์เทรด ทำให้หลายคนหมดตัวกับการลงทุนในฟอเร็กซ์นี้ หากต้องการฝึกและลงทุนในอัตราแลกเปลี่ยน ลองนึกถึงการแลกเงินไปต่างประเทศที่สนามบินหรือสถาบันที่รับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศดูว่าคุณจะสามารถทำกำไรจากการแลกเปลี่ยนนี้ได้หรือไม่ หากทำได้ค่อยขยับไปลงทุนในฟอเร็กซ์ที่เป็นตลาดเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

ไม่ว่าคุณจะลงทุนในกิจการใด ลงทุนแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความรู้ รู้ในสิ่งที่จะลงทุน รู้ที่จะตัดการขาดทุน รู้ที่จะรักษาผลกำไรและรู้ว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ เพราะคนมากกว่า 90% ที่ล้มเหลวจากการลงทุนมักจะไม่รู้และไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนเองลงทุน 

ค่านิยมเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อการลงทุนในทองคำ

ค่านิยมเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อการลงทุนในทองคำ

การลงทุนในทองคำนั้น ถือเป็นความนิยมสำหรับการป้องกันความเสี่ยงใด ๆ ก็ตาม อันอาจจะเกิดจากความผันผวน หรือความเปลี่ยนแปลงในเชิงเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเกิดจากปัญหาความไม่มีเสถียรภาพของสกุลเงิน ปัญหาอัตราเงินเฟ้อ หรือแม้แต่ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยในภาวะสงคราม การลงทุนในทองคำ จึงถือได้ว่าเป็นการออมซึ่งจะสร้างมูลค่าในระยะยาวได้อย่างปลอดภัย และมั่นคงประเภทหนึ่งเลยทีเดียว

ค่านิยมเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อการลงทุนในทองคำ

เมื่อพูดถึงการลงทุนในทองคำแท่งสำหรับนักลงทุนที่คุ้นเคยกับการซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะออนไลน์ การลงทุนในทองคำแท่ง ก็จะมีลักษณะเป็นการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งนักลงทุนก็จะต้องประสานติดต่อกับโบรกเกอร์แบบดั้งเดิม โดยที่นอกเหนือจากที่คุณทำการซื้อขายทองคำแท่งแล้ว คุณก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการจัดเก็บ และการประกันในการลงทุนทองคำแท่งของคุณอีกด้วย

การลงทุนในทองคำแท่ง

สำหรับการลงทุนในทองคำแท่งนั้น จะมีมาให้เลือกในรูปแบบที่นิยมกัน ก็คือ เป็นแท่งทองคำในขนาด 10 ออนซ์ จนถึงแท่งทองคำในขนาด ประมาณ 400 ออนซ์ และราคาปัจจุบันของทองคำแท่ง ก็จะผันผวนขึ้นลงไปตามราคาตลาด 

การลงทุนในทองคำแท่งจะเป็นสิ่งที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ดังนั้นคุณจำเป็นจะต้องใช้โบรกเกอร์ซึ่งเลือกมีชื่อเสียง และมีความน่าเชื่อถือ เพราะคุณจะต้องคำนึงถึงเรื่องของการจัดส่ง การประกันภัย หรือแม้แต่บริการห้องนิรภัยหรือตู้นิรภัยขนาดใหญ่ ในกรณีที่คุณไม่ต้องการที่จะเก็บรักษาทองคำแท่งไว้กับตัว 

การลงทุนในทองคำแท่ง จะเป็นลักษณะการลงทุนในทองคำที่ตรงไปตรงมา เรียบง่าย และได้รับความนิยมเสมอมา คุณเพียงแค่ติดตามราคาขึ้นลงของทองคำแท่งในตลาด ซื้อทองคำแท่งมาเมื่ออยู่ในระดับราคาที่คุณพอใจ และขายทองคำแท่งไป เมื่ออยู่ในระดับราคาที่สร้างกำไรให้กับคุณเอง 

แต่ทั้งนี้ราคาของทองคำแท่งนั้น ย่อมจะไม่มีการผันผวนได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นผู้ที่เลือกที่จะลงทุนในทองคำแท่ง จึงเหมาะกับผู้ที่มีเงินเย็น หรือสามารถใช้เงินสดชำระมูลค่าทองคำแท่งได้เต็มจำนวน หรือไม่ต้องกู้ยืมเพื่อนำมาชำระเป็นค่ามูลค่าทองคำแท่งนั่นเอง เพราะหากเป็นการกู้ยืมมาเพื่อลงทุนทองคำแท่ง ก็ย่อมจะไม่คุ้มกับค่าดอกเบี้ยซึ่งคุณจะต้องแบกรับ

เงินสดจะมูลค่าลดลงเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ แต่ทองคำจะมูลค่าเพิ่มขึ้นไปตามกาลเวลา นอกจากนั้นราคาทองคำมักจะเป็นสัดส่วนผกผันกับตลาดการลงทุนอื่น ๆ เมื่อใดก็ตามที่ตลาดหุ้นตก ราคาทองคำจะสูงขึ้นและนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการลงทุนทองคำจึงเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย ในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นเกิดภาวะผันผวนและราคาหุ้นดิ่งลง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น พากันย้ายสินทรัพย์ออกไปยังทรัพย์สินที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ซึ่งพวกเขายกย่องให้ทองคำนั้นถือเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย ดังนั้นหากคุณมองผลตอบแทนในระยะเวลายาว ๆ การลงทุนในทองคำจึงตอบโจทย์ของคุณมากที่สุดแล้ว

อยากลงทุนต้องสร้างแรงบันดาลใจด้วย 3 วิธีออกจากเซฟโซน

อยากลงทุนต้องสร้างแรงบันดาลใจด้วย 3 วิธีออกจากเซฟโซน

การลงทุนถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการบริหารเงินให้เกิดผลกำไร เพราะการเก็บเงินไว้เฉย ๆ ไม่ได้เกิดประโยชน์ใด ๆ แต่เชื่อว่าหลายคนก็มีความกังวลไม่น้อย ด้วยเหตุผลที่ว่าขาดความรู้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก และหลายคนเชื่อว่าการมีเงินสดติดตัวนั้นดีที่สุด แต่หากคุณไม่ออกจากเซฟโซนก็ไม่อาจเติบโตได้ ฉะนั้นหากคุณอยากทำให้เงินที่มีอยู่ในมืองอกเงยลองศึกษาจากข้อมูลที่เรานำมาวันนี้ 

  1. นึกและทบทวนเป้าหมาย การเริ่มต้นทำทุกอยางจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าเป้าหมายคืออะไร เพื่อให้การเดินทางไปสู่จุดหมายนั้นมีภาพที่ชัดเจน อย่างเช่น ภายในระยะเวลา 5 ปี คุณจะต้องทำกำไรให้ได้ 5 ล้านบาทจากการลงทุน หรือจะต้องเก็บเงินให้ได้สักก้อนเพื่อซื้อบ้าน เป็นต้น จึงชัดเจนแล้วว่าเป้าหมายมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการตัดสินใจลงทุน
  2. เช็กสถานะการเงินของตัวเอง แม้ว่าการลงทุนจะทำให้คุณได้รับผลกำไรตอบแทนไม่ว่ามากหรือน้อยก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถตัดสินใจทำได้ เพราะหากคุณไม่ได้กันเงินไว้บางส่วนก็อาจมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของคุณได้ ฉะนั้นควรเช็กค่าใช้จ่ายก่อนว่าเพียงพอหรือไม่หากนำเงินบางส่วนไปลงทุน ถัดมาควรเช็กในส่วนของเงินฉุกเฉินเพราะเมื่อใดก็ตามหากคุณตกงานกะทันหันหรือไม่สบาย เงินส่วนนี้จะเป็นตัวช่วยและทำให้มีทุนสำหรับการลงทุน สุดท้ายที่เราอยากแนะนำคือการลงทุนควรเป็นเงินเย็นที่เมื่อนำไปใช้แล้วจะไม่สร้างความเดือดร้อนภายหลัง
  3. ศึกษาก่อนลงทุน เมื่อคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนและเงินทุนที่พร้อม สิ่งต่อไปที่จะขาดไม่ได้เลยคือความรู้ความเข้าใจในการลงทุนนั้น ๆ ซึ่งสามารถศึกษาในรูปแบบของหนังสือ เข้าร่วมสัมมนาและสื่อออนไลน์ต่าง ๆ  ซึ่งมีทั้งแบบบริการให้ข้อมูลฟรีและมีค่าบริการด้วย หรือเพิ่มความมั่นใจด้วยการศึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์จริงก็ถือเป็นข้อมูลที่ไม่ควรมองข้าม 
  4. ซื้อทองคำแท่ง เป็นสินทรัพย์ที่หลายคนเลือกลงทุน เพราะสามารถซื้อขายง่าย ที่สำคัญนำไปจำนำได้อีกด้วย ด้วยความที่ทองเป็นสิ่งที่เราเข้าถึงได้ง่ายที่สุด อีกทั้งตัวทองคำแท่งเมื่อนำไปขายจะมีค่าบล็อกถูกกว่าค่ากำเหน็จทองรูปพรรณ จึงไม่ใช่เรื่องยากหากหลายคนเลือกลงทุนกับสิ่งนี้ 

การลงทุนทั้งทีไม่ควรตัดสินใจเพราะอยากได้กำไรหรือเพื่อนชักชวนเท่านั้น คุณเองต้องศึกษาทั้งข้อมูลและเช็กสถานะทางการเงินของตัวเองว่ามีความพร้อมแค่ไหน หากคุณมีสิ่งเหล่านี้ครบพร้อม แม้ว่าการลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่เชื่อว่าผลกำไรหรือเป้าหมายที่คุณวางไว้จะสำเร็จได้ไม่ยาก 

4 เทคนิคที่เปลี่ยนทุนหลักร้อยให้เป็นผลกำไรหลักหมื่นหลักแสน

กระแสฟุตบอลกำลังมาแรงมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ แล้วหลายคนก็รู้ดีว่าการแข่งขันฟุตบอลมักจะมาคู่กันกับการพนัน จนทำให้สร้างรายได้มากถึง 200-300 บาทต่อวัน และมีบางคนที่ทำกำไรได้มากถึงหลักแสน จากการเดิมพันในช่วงระยะเวลา 1 ปี แล้วก็มีเซียนบอลจำนวนหนึ่งที่ความสามารถเปลี่ยนทุนเดิมพันหลักร้อยให้เป็นผลกำไรหลักหมื่นหลักแสนได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ เล่าเรื่องมาขนาดนี้แล้ว เชื่อว่ามีหลายคนกำลังให้ความสนใจและอยากรู้เทคนิค ดังนั้นเรามาดูกันกับ 4 เทคนิค

เทคนิคที่ 1 : เลือกเว็บเดิมพันที่เป็น Partner ในการลงทุนระยะยาว โดยผู้เล่นต้องให้ความสนใจกับเรื่องตัวเว็บพนันที่ผู้เล่นจะใช้บริการในการลงทุนเสียก่อน เนื่องจากเว็บเดิมพันนั้นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในด้านประสบความสำเร็จ หากเกิดเลือกใช้บริการในเว็บพนันที่ไม่มีคุณภาพก็อาจจะล้มเหลว ส่วนการเลือกเว็บพนันออนไลน์ที่ดีนั้นควรจะมีโปรโมชั่นเข้ามาช่วยส่งเสริมในการทำกำไร ช่วยให้ผู้เล่นมีโอกาสขาดทุนน้อยลงจากการวางเดิมพันในแต่ละครั้ง ยกตัวอย่าง คืนเงินที่ผู้เล่นเสียไปเปอร์เซ็นต่อสัปดาห์ หรือเป็นเว็บที่ไม่เอาเปรียบผู้เล่นจนเกินไปในเรื่องของอัตราการต่อรองที่เปิดมาให้เดิมพัน

เทคนิคที่ 2 : เลือกโหมดเดิมพันที่เหมาะสมกับกำลังทรัพย์ ไม่ใช่เลือกแต่โหมดที่ได้รับความนิยม ยกตัวอย่างเช่น โหมดการเดิมพันแฮนดิแคปอัตราต่อรอง หรือเดิมพันแบบสเต็ปที่ได้ผลกำไรมากเป็นหลายเท่าตัว เพราะใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำกำไรจากโหมดเหล่านี้ได้ มาดูกันไปทีละโหมด เริ่มที่โหมดลูกเตะมุม สามารถทำการเก็งกำไรได้จากจำนวนลูกเตะมุมของทั้งสองทีม ส่วนเทคนิคในการเก็งกำไรจากลูกเตะมุมนั้นให้ดูฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีมเป็นหลัก แล้วถ้าเกิดทั้งสองทีมมีการบุกใส่กันตลอดทั้งเกม ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าเข้าข่ายโหมดแต้มสูงที่นับจากจำนวนประตูของทั้งสองทีมที่ทำได้

เทคนิคที่ 3 : ต้องวางแผนจะได้มองเห็นการทำกำไรในระยะยาว ซึ่งการเดิมพันในแต่ละครั้งนั้นจะหวังแค่ดวงช่วยไม่ได้ โดยที่ผู้เล่นควรกำหนดเอาไว้ว่าลงทุนจำนวนเงินเท่าไหร่และจะแบ่งใช้เดิมพันทั้งหมดกี่วัน โดยเทคนี้จะช่วยลดปัญหาของการโอเวอร์เบทหรือการลงเดิมพันด้วยจำนวนเงินที่เยอะมากเกินไปในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นต้นเหตุของการขาดทุนมานักต่อนักแล้ว และในทุกๆครั้งที่ผู้เล่นสามารถทำกำไรได้ในแต่ละวัน ควรจะเป็นกำไรที่ขั้นต่ำ 2 เท่าของเงินที่ผู้เล่นขาดทุนจากการลงทุนไปก่อนหน้า เช่นขาดทุน 100 บาท โดยจำนวนเงินกำไรที่ผู้เล่นควรทำได้ในแต่ละวันก็คือ 200 บาทเป็นอย่างต่ำ

เทคนิคที่ 4 : ให้เลือกเก็งกำไรไปทีละคู่ไม่ต้องรีบร้อนเล่นทีละหลายคู่ เอาจริงแล้วจำเป็นต้องเดิมพันวันละหลายคู่ก็ได้ เพราะถ้าเกิดผู้เล่นใช้เงินลงทุนหนักๆที่คู่มั่นใจเพียงแค่ 1 คู่ เราก็สามารถทำกำไรได้ไม่แพ้กับการลงทุน 3 คู่หรือ 5 คู่ แล้วการเดิมพันทีละคู่นั้นมีประโยชน์ตรงที่ทำให้ผู้เล่นสามารถโฟกัสในการลงทุนได้ง่ายขึ้น ด้วยการคาดการณ์ผลการแข่งขันที่แม่นยำจากช่วงเวลาวิเคราะห์บอลที่มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากมี 500 บาท แล้วแบ่งเป็นคู่ละ 100 บาท อาจจะได้กำไรแค่ 3 คู่ แล้วขาดทุนไป 2 คู่ แต่ถ้าเกิดผู้เล่นลงทุนคู่เดียวไปหนักๆ 500 บาท แล้วชนะขึ้นมาก็จะได้รับกำไรกลับมาเต็มที่ 500 เลย

ทั้ง 4 เทคนิคที่ได้กล่าวมาไม่ใช่เทคนิคที่ตายตัวหรือต้องทำตามแบบเคร่งครัดแต่อย่างใด แต่ว่าผู้เล่นสามารถนำเทคนิคต่างๆ ไปประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์ได้ในรูปแบบของการลงทุนของตัวผู้เล่นเอง เพียงแต่รูปแบบของการลงทุนที่เรานำมาเสนอนี้ มีเซียนบอลหลายๆคนเลือกใช้ ถ้าหากอิงจากสถิติแล้วพบว่าได้ผลเกิน 90% แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการต่อยอดและการเรียนรู้เข้าใจของตัวผู้เล่นเองด้วย

ขาดทุนเลี้ยวซ้าย ได้กำไรเลี้ยวขวา เรื่องที่นักลงทุนต้องรู้

ทำไมการลงทุนจึงขาดทุนได้

“ถ้าคิดจะเป็นนักลงทุน ต้องพร้อมที่จะกำไรและขาดทุน” เพราะโลกของเราไม่ได้มีแต่ด้านที่สวยหรูอย่างคำลวงผิด ๆ ที่ชวนฝันให้เห็นภาพว่าถ้าลงทุนแล้วจะรวยเป็นเศรษฐี หรือ คำกล่าว “คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น” ซึ่งก็มีความจริงอยู่บ้างแต่ไม่ทั้งหมด ดังนั้นการลงทุนจึงเหมือนทางเดินที่ไปพบกับทางเลือกสองทางคือ การขาดทุน และ การได้กำไร

ทำไมการลงทุนจึงขาดทุนได้?

มีสาเหตุมากมายทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ธุรกิจ SMEs เกิดใหม่เพียงร้อยละ 50 เท่านั้น ที่เป็นผู้รอดเมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี นั่นหมายความว่าอีกร้อยละ 50 ก็คือขาดทุนหรือจำเป็นต้องปิดตัวลงไป ด้วยความผันผวนทางเศรษฐกิจ นโยบายภาครัฐ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ รวมถึงการบริหารทรัพยากรบุคคล ก็มีผลทำให้กำไรหรือขาดทุนได้ แม้เป็นนักลงทุนรายย่อยก็เช่นกัน หุ้นตัวที่ถืออยู่อาจจะทำกำไรได้ในวันนี้ แต่อาจจะขาดทุนมหาศาลในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้ รวมถึงการถือครองโลหะที่มูลค่าอย่างทองคำ หากเข้าซื้อผิดช่วงก็จะเกิดการติดดอยทองคำ ลงมาไม่ได้ไม่กล้าขายออกเพราะจะขาดทุน หลายรายต้องขาดทุนยิ่งขึ้นไปอีก เพราะพื้นลดระดับลงไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งดูสูงขึ้นจนไม่กล้ากระโดดลงมา

การปิดประตูขาดทุนทำได้หรือไม่?

สามารถทำได้ถ้ามีความรู้เท่าทันเหตุการณ์ และมีความจดจ่ออยู่กับธุรกิจที่ลงทุน อย่างเช่น นักลงทุนในหุ้น ที่บริหารพอร์ตด้วยตนเอง ได้รับคำแนะนำว่าให้ถือหุ้นเพียง 2-3 ตัวเท่านั้น หากมากกว่านั้น อาจจะติดตามข่าวสารไม่ทัน ซึ่งทุกวันนี้เกิดขึ้นรวดเร็วมาก เช่น สหรัฐฯ สั่งขึ้นภาษีสินค้าจีน จากข่าวนี้ก็อาจจะทำให้หุ้นตัวที่ถืออยู่เกิดผลกระทบได้โดยที่คาดไม่ถึงมาก่อนก็เป็นได้ ความรู้ในงานที่ทำจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก อีกทั้งต้องก้าวตามให้ทันเทคโนโลยีและแนวโน้ม ซึ่งมีกรณีศึกษามากมายถึงธุรกิจที่ไม่สามารถปรับตัวได้กับยุคของเทคโนโลยีทำให้ต้องปิดตัวลงไป ที่เห็นได้ชัด เช่น สื่อสิ่งพิมพ์สำนักต่าง ๆ ที่ทยอยปิดตัวลง หรือวงการเพลงที่ซบเซาลง จากการมาของยุคอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (Internet of Things) การใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และ AI กำลังมีบทบาทสำคัญที่อาจจะทำให้งานบางงานหรือบางธุรกิจต้องรีบปรับตัว

นักลงทุน ในหุ้นในธุรกิจต่าง ๆ จะถือหุ้นบนหอคอยงาช้าง รอรับเงินปันผลเพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องเข้ามาขวนขวายความรู้ของธุรกิจไปด้วย รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้ต่าง ๆ กับสังคมออนไลน์ เพื่อรวบรวมข้อมูลทุกด้านเข้าด้วยกันแล้วประเมินความเสี่ยงของธุรกิจที่ถือครองหุ้นอยู่ว่าจะมีแนวโน้มอย่างไรในอีก 5-10 ปี ข้างหน้า หากทำได้ก็จะได้ก้าวเข้าไปอยู่ในเส้นทางของกำไรมากกว่าการขาดทุน

ขาดทุนเลี้ยวซ้าย ได้กำไรเลี้ยวขวา เรื่องที่นักลงทุนต้องรู้

อยากสำเร็จอย่างนักลงทุนเงินล้าน

อยากสำเร็จอย่างนักลงทุนเงินล้าน ต้องทำอะไรบ้าง

การจะประสบความสำเร็จในการลงทุนหลักล้าน จำเป็นต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานหลายประการ ซึ่งในวันนี้เราได้รวบรวมสิ่งที่นักลงทุนระดับเงินล้านทำเป็นกิจวัตรเพื่อเป็นบันไดสู่ความสำเร็จของทุกท่าน ดังนี้

การไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาคลังความรู้ในสมอง

นอกจากการลงทุนด้วยเงินในธุรกิจที่น่าสนใจแล้ว ยังต้องลงทุนในความรู้อยู่ตลอดเวลา เราจะพบว่ามีคนกลุ่มหนึ่งฟังข่าว อ่านหนังสือ หรือติดตามคอลัมน์ในสื่อเป็นประจำทุกวัน เพื่อเป็นการอัพเดตความรู้ให้มีความทันสมัยและไม่ปล่อยให้โอกาสในการลงทุนในสิ่งใหม่ ๆ ก่อนคนอื่นหลุดมือไปง่าย ๆ

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มความรู้ด้วยการฟังสัมมนาทั้งแบบฟรีและเสียเงินแบบที่จัดในไทยและต่างประเทศเพื่อศึกษาทฤษฎีใหม่ ๆ จากนักการตลาดและนักวิเคราะห์ระดับแนวหน้าเป็นประจำ ไม่มีคำว่าล้าสมัยเลยสำหรับคลังสมองของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จชั้นแนวหน้ากลุ่มนี้

อยากสำเร็จอย่างนักลงทุนเงินล้าน ต้องทำอะไรบ้าง

การลงพื้นที่จริงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนที่หลากหลาย

นักลงทุนเงินล้านต้องรู้และเห็นด้วยตาตัวเองก่อนที่จะเชื่อว่าการรายงานตามสื่อ หรือเอกสารต่าง ๆ เป็นความจริง โดยเฉพาะผู้ลงทุนในหุ้นและธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล ยิ่งต้องได้ลองไปเยี่ยมเยียนสถานที่ประกอบกิจการนั้น ๆ มาก่อนแล้วทั้งสิ้น

ส่วนการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะกับคนอื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่ต้องทำทุกวันเช่นกัน เพื่อให้เกิดการฝึกสมองให้คิด วิเคราะห์ และเป็นการสร้างมนุษยสัมพันธ์กับบุคคลภายนอก ที่มักได้ความคิดเห็นที่หลากหลายยิ่งกว่าการทำงานในบริษัท

การอ่านรายงานผลดำเนินงานของกิจการ

ในทุกวันหลังการทำกิจวัตรประจำวันส่วนตัว นักลงทุนที่ดีจะมีการอ่านรายงานผลประกอบการ ผลวิเคราะห์สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้น บัญชีสินทรัพย์ รายได้รายจ่ายขององค์กร เพื่อพิจารณาว่าควรต้องเดินหน้าอย่างไร จะผลักดันแผนการส่วนไหนให้กู้สถานการณ์วิกฤต หรือเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดฝัน ฯลฯ

การเดินทางไปหาประสบการณ์ที่หลากหลายและความท้าทายใหม่ ๆ

แม้ว่านักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายท่านจะอยู่ในจุดที่มีเงินทองพอกินและเหลือใช้แล้ว แต่ส่วนใหญ่ไม่เลือกที่จะมีไลฟ์สไตล์ที่สบายแบบไม่ต้องทำงานอย่างที่คนทั่วไปใฝ่ฝัน ตรงกันข้าม พวกเขาเหล่านั้นต่างพากันสะพายเป้ออกเดินทางครั้งใหม่ในสิ่งที่ไม่เคยเรียนรู้ เช่น การปีนยอดเขาเอเวอร์เรส การไปเล่นสกีน้ำแข็งในสนามสุดโหด รวมถึงการไปในดินแดนต่างประเทศที่มีความทุรกันดารแนว unseen เพื่อหาความท้าทายใหม่ ๆ และเป็นการสร้างคุณค่าให้ชีวิตในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม

การเรียนรู้จากนักลงทุนเงินล้านทั้งด้านวิธีการคิดและการใช้ชีวิต จนสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตของเรา จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาแนวทางการดำเนินชีวิตประจำวันให้เข้าใกล้ความสำเร็จเฉกเช่นกัน

ลงทุนกับพนักงานเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ

ลงทุนกับพนักงานเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ

ลงทุนกับพนักงานเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ

คุณคงเคยได้ยินเรื่องการลงทุนกับพนักงานเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งเป็นการใช้เงินอย่างคุ้มค่า ไม่เพียงเราจะได้ทรัพยากรที่มีความสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังสร้างแรงจูงใจในระยะยาวให้พนักงานมีความจงรักภักดีต่อองค์กรอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอธิบายว่า พนักงานเป็นสินทรัพย์สำคัญที่สุดของบริษัทธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ การพัฒนาทักษะความสามารถของลูกจ้างทุกระดับ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดได้

การพัฒนานำไปสู่เป้าหมายสูงสุด

พัฒนาคน พัฒนางาน

การพัฒนาคนเป็นพื้นฐานสำคัญทำให้ลูกจ้างมีความภักดีต่อองค์กร เมื่อเราให้เขาอย่างเต็มที่ เป็นแรงจูงใจให้เขาทำงานกับเราอย่างเต็มที่และและมีประสิทธิภาพ พนักงานจะเข้าใจบทบาทของตนและมีแรงบันดาลใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทำให้บริษัทของตนบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ อย่าลืมความสำคัญของแผนผังองค์กร ต้องบริหารคนไปตามโครงสร้างโดยดูว่าใคร หรือตำแหน่งไหน ควรได้รับการสนับสนุนเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของบริษัท

ความเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ

หลักการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพควรเปิดรับความคิดใหม่ ๆ ในการดำเนินธุรกิจของคุณ ตรวจสอบว่าคุณใช้เวลาของคุณอย่างไร ถ้าคุณใช้เวลามากเกินไปในการปฏิบัติงานหรือคุณอาจจะไม่มีเวลามากพอ ควรลงทุนส่งเสริมให้พนักงานได้เรียนเสริมเพิ่มความรู้และแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนดูแลงานแทนคุณ วิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตและสร้างผลตอบแทนตามต้องการโดยที่คุณไม่ต้องลงมือทำเองทุกอย่าง ผู้นำที่มีประสิทธิภาพสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้มากขึ้น ทำงานเก่งขึ้น มีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง ตั้งใจทำงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนให้ดีขึ้น รู้สึกมีแรงจูงใจที่จะเติบโตและมีส่วนร่วมในเป้าหมายทางธุรกิจของบริษัท

การพัฒนานำไปสู่เป้าหมายสูงสุด

สร้างวัฒนธรรมและความสัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน

การสร้างวัฒนธรรมองค์กร มีค่านิยม ความเชื่อ มุมมองและพฤติกรรมที่เหมาะสมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและมีผลกำไร เราจะรู้ได้ว่าใครพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมได้ตั้งแต่ขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน สามารถประเมินได้ว่าผู้สมัครมีความเหมาะสมกับวัฒนธรรมขององค์กรและพร้อมจะพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพได้หรือไม่ ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จต้องการให้พนักงานทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน มีความสนใจในเรื่องความก้าวหน้าของบริษัท จะเกิดประโยชน์กับธุรกิจของคุณมากที่สุด

การลงทุนฝึกอบรมพนักงาน

บริษัทธุรกิจจึงไม่ควรละเลยเรื่องการลงทุนในด้านฝึกอบรมพนักงานและการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ทั้งในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ให้ทุกคนทำงานด้วยใจรักได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังต้องวางแผนความสำเร็จของบริษัทโดยรับประกันความเติบโตและก้าวหน้าในตำแหน่งงานและการเงินของพนักงานด้วย ลูกจ้างจะมีกำลังใจทำงานหากรู้ว่าทำงานแล้วมีโอกาสได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ปรับเพิ่มเงินเดือน ทำให้มีเป้าหมายในการทำงานให้สำเร็จรวดเร็วและมีคุณภาพ เพราะรู้ว่าประโยชน์ของบริษัทมีมากเท่าไร จะสร้างผลตอบแทนย้อนกลับมาสู่ตนเองมากทวีคูณเช่นเดียวกัน

ลงทุน 3 ประการเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี

ลงทุน 3 ประการเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี

ลงทุน 3 ประการเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี

ในเรื่องของการลงทุนนั้น เราจำเป็นจะต้องระวังให้ดีและคิดให้ดีก่อนที่จะลงทุน เพราะการลงทุนเงินโดยที่ไม่ได้มีการวางแผน ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากจะทำให้คุณต้องเสียเงินทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยที่ไม่ได้เกิดผลลัพธ์ที่ดีตามมา แถมความเสี่ยงก็สูงมากขึ้นกว่าเดิมด้วย การวางแผนผ่านการลงทุนคุณสามารถวางแผนได้ โดยใช้หลักการคิดที่ว่าจะลงทุนเพื่อให้เงินก้อนนี้งอกเงยขึ้นมากว่าเดิมได้อย่างไร จะให้เงินงอกเงยออกมาเป็นดอกหรือเป็นผลได้อย่างไรบ้าง เมื่อคิดวางแผนเช่นนี้แล้วขั้นตอนต่อไปคือการค้นหาว่าจะลงทุนทำอะไรเป็นหลัก และวางแผนเจาะลึกอีกครั้งว่าจะทำในระยะสั้นหรือระยะยาวตามมา แต่ไม่ว่าคุณจะลงทุนทำอะไรก็ตาม คุณจำเป็นจะต้องอาศัยหลักในการลงทุน 3 อย่างเป็นตัวชี้นำทาง ดังนี้

การวางแผนในเรื่องของเงินทุนเริ่มต้น

สำหรับเงินทุนเริ่มต้น นับได้ว่าเป็นเงินต้นที่เราจะนำไปลงทุนโดยตรง หากว่าเราไม่มีสิ่งนี้เป็นหลัก เราจะไม่สามารถลงทุนได้ สิ่งที่เราจะแนะนำก็คือ อย่าพยายามนำเงินร้อนที่คุณมีมาเป็นเงินต้นในการลงทุน เนื่องจากการลงทุนอาจจะต้องใช้ระยะเวลาเพื่อให้เกิดผล ยิ่งถ้าหากไม่ได้ตามที่คุณได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ด้วยแล้ว ยิ่งจะส่งผลกระทบถึงคุณโดยตรงอย่างแน่นอน

ลงทุนแล้วจะได้ผลตอบแทนอย่างไร

เมื่อเราได้ลงทุนไปแล้ว เราจะต้องรู้ต่อว่าลงทุนแล้วจะได้ผลตอบแทนอย่างไร มีผลเช่นไร คุ้มค่าหรือไม่ และควรคิดถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วย หากเกิดขึ้นเราจะทำอย่างไรต่อไป นอกจากนี้คุณควรศึกษาเกี่ยวกับระบบการลงทุนเพิ่มเติม เพื่อให้มีความรู้มากยิ่งขึ้น อย่ายึดแต่จะลงทุนเพียงอย่างเดียว โดยที่คุณไม่รู้อะไรเลย

คิดในเรื่องของระยะเวลาในการลงทุน

ในส่วนของระยะเวลาในการลงทุน นับได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง เมื่อเรามองเห็นช่องทางที่สร้างผลตอบแทนได้ดี เราย่อมที่จะลงทุนกับสิ่ง ๆ นั้น แต่คุณจะต้องคิดด้วยว่าระยะเวลาที่คุณจะได้ผลตอบแทนนั้น เป็นระยะเวลาที่ยาวนานขนาดไหน หากเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากและไม่เหมาะสมกับตัวคุณ คุณก็ไม่ควรลงทุนกับสิ่งนั้น

สำหรับหลักในการลงทุนทั้ง 3 แบบนี้ ถือได้ว่าเป็นหลักในการคิดและการวางแผนขั้นตอนเพื่อให้การลงทุนนั้นมีความรอบคอบ ต่อให้ไม่ว่าคุณจะลงทุนอะไรแบบไหน คุณก็จะสามารถลงทุนได้ดี ตลอดจนกระทั่งทำให้มันงอกเงยออกมาได้ตามใจคุณ หากคุณมีการวางแผนพร้อมทั้งบริหารดูแลมาเป็นอย่างดีแล้ว ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่คุณได้วางแผนเอาไว้