การลงทุนแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน ง่ายกว่าที่คิด!

การลงทุนแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน ง่ายกว่าที่คิด!

การลงทุนแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน ง่ายกว่าที่คิด!

การลงทุนถือเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามาก ใคร ๆ ก็สามารถที่จะลงทุนเพื่อให้เกิดผลกำไรที่งอกเงยได้แต่ต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ สำหรับใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือนก็สามารถที่จะเริ่มต้นลงทุนได้อย่างไม่ยาก

สิ่งแรกที่เราควรรู้สำหรับการลงทุนก็คือ ในการลงทุนนั้น เราควรที่จะใช้เงินเย็นหรือเงินที่เราสามารถแบ่งสรรปันส่วนมาใช้ได้โดยไม่เดือดร้อน ไม่กระทบกับสภาพคล่องทางการเงินของเรา พูดง่าย ๆ ก็คือในส่วนนี้เราไม่ควรที่จะกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาใช้ในการลงทุน เพราะถึงแม้ว่าการลงทุนจะมีโอกาสที่ได้รับผลตอบแทนมาก แต่ความเสี่ยงในการที่จะขาดทุนก็สูงตามไปด้วย

การลงทุนที่น่าสนใจสำหรับมนุษย์เงินเดือน

การลงทุนแบบที่ 1 ก็คือ การลงทุนในสลากออมทรัพย์ เป็นวิธีการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อย คล้ายกับการซื้อลอตเตอรี่แต่เงินต้นที่ได้ลงทุนไปนั้นไม่ได้สูญเปล่า เสมือนเป็นการออมเงินอีกทางหนึ่งนั่นเอง แต่จะแตกต่างจากการฝากประจำตรงที่มีโอกาสลุ้นรางวัลในแต่ละงวด ทั้งนี้จะได้มากหรือได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับรางวัลที่ได้นั่นเอง ผลตอบแทนในวิธีการนี้ก็จะไม่แน่นอน อาจได้หรือไม่ได้เลยก็ได้ ซึ่งถ้าหากเราฝากเงินด้วยการซื้อสลากครบกำหนดตามเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็น 1 ปี 2 ปี หรือ 3 ปีก็จะได้รับดอกเบี้ยด้วย ถือเป็นวิธีการออมเงินทางอ้อมวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ

การลงทุนแบบที่ 2 ก็คือ การลงทุนในกองทุนรวม การลงทุนประเภทนี้ถือว่ามีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นกว่าแบบแรกคือ มีโอกาสที่จะขาดทุนนั่นเอง ในส่วนนี้เราต้องศึกษาแต่ละกองทุนที่เรามีความสนใจว่ามีแนวโน้มของผลตอบแทนเป็นเช่นไร จำนวนเงินขั้นต่ำที่ใช้ลงทุนต้องเป็นเท่าไหร่ แล้วเรามีความต้องการผลตอบแทนในระยะสั้นหรือระยะยาว ก็ให้เลือกตามความเหมาะสมและความต้องการของตนเอง วิธีการนี้เราจะเป็นเพียงผู้ลงทุน ทางกองทุนจะมีผู้จัดการกองทุนที่เข้ามาบริหารเงินลงทุนของเราทั้งหมด

การลงทุนแบบที่ 3 ก็คือการลงทุนในหุ้น ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดในบรรดาการลงทุนที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพราะเราจะต้องเป็นคนบริหารจัดการเองทั้งหมด ทั้งการซื้อหุ้น ขายหุ้น ทั้งนี้หากเราคิดจะลงทุนในหุ้น ก็ควรที่จะใส่ใจในวิธีการลงทุน และติดตามการเปลี่ยนแปลงข่าวสารเศรษฐกิจ การผันผวนของหุ้นอย่างสม่ำเสมอ

จะเห็นได้ว่าการลงทุนล้วนมีความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น แต่การที่เราไม่คิดจะเสี่ยงหรือลงทุนอะไรเลย ก็คงไม่สามารถที่จะเพิ่มพูนทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ได้ ดังนั้นหากว่าเรามีความตั้งใจ ใฝ่หาความรู้ข้อมูลต่าง ๆ และประเมินความเสี่ยงในการลงทุนอยู่เสมอ การลงทุนก็จะไม่ใช่เรื่องน่ากลัวของมนุษย์เงินเดือนอีกต่อไป

วิธีการลงทุนที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ 2019

วิธีการลงทุนที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ 2019

ในปี 2019 คนรุ่นใหม่มีความสนใจในศาสตร์การเงินและการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากสามารถทำให้เงินเก็บเพิ่มพูนมูลค่าได้อย่างมาก ทั้งผลประโยชน์ในรูปแบบเงินดอกเบี้ย เงินปันผล ตลอดจนสิทธิพิเศษต่าง ๆ ตามรูปแบบของการลงทุน

เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าของเงินเก็บมาฝากกัน ดังนี้

1. การเล่นหุ้น

ผู้ที่สนใจการเล่นหุ้นในปี 2019 ควรศึกษาจากการอ่านหนังสือที่กูรูหรือเซียนหุ้นเขียนอย่างละเอียดและหมั่นเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเทรดหุ้นจริงในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะทำให้ตอบตนเองได้ว่าไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบเหมาะกับการเล่นหุ้นประเภทใด เพราะการซื้อขายหุ้นมีหลายแบบ เช่น การซื้อขายรายวันหรือ day-trade การถือครองหุ้นระยะยาวหรือ VI (Value investment) ซึ่งแต่ละแบบจะมีเปอร์เซ็นต์ของค่าตอบแทนที่แตกต่างกันตามจังหวะของตลาดหุ้น

2. การซื้อกองทุนรวม

เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่ยังไม่เชี่ยวชาญ อีกทั้งขาดประสบการณ์ลงทุนในหุ้น จึงเลือกที่จะซื้อกองทุนรวมที่มีผู้บริหารกองทุนทำหน้าที่ดูแลอย่างเป็นทางการ ซึ่งโดยรวมแล้วเปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนของกองทุนรวมอาจน้อยกว่าการเล่นหุ้นแบบรายตัว เพราะจะเป็นการถัวเฉลี่ยค่าตอบแทนจากหุ้นหลายสิบตัวในตลาดหลักทรัพย์

3. การออมเงินในสหกรณ์

การสมัครเป็นสมาชิกในสหกรณ์ใด ๆ ต้องมีคุณสมบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งมักเป็นสิทธิประโยชน์สำหรับคนที่ทำงานในสายราชการหรือหน่วยงานขนาดใหญ่ ที่จะมีการจัดตั้งกลุ่มสหกรณ์เพื่อการออมเงิน โดยมีการจูงใจด้วยผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากธนาคารและการซื้อกองทุนตราสารหนี้ทั่วไป ทั้งยังสามารถกู้เงินสหกรณ์ได้ตามสิทธิ์ เพื่อการลงทุนทำกิจการต่าง ๆ ในอนาคตได้อีกด้วย จึงนับว่าเป็นช่องทางที่คนรุ่นใหม่นิยมลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ

4. การซื้อทอง

ทองเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงตลอดเวลา และอาจปรับเพิ่มมูลค่าตามภาวะเศรษฐกิจได้อีกด้วย การลงทุนด้วยการซื้อทองเก็บไว้จึงเป็นวิธีในการเก็บออมเงินที่ดี และทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไปด้วย ทั้งนี้ควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทองก่อนการซื้อ เพื่อให้ได้มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด โดยจะซื้อในรูปแบบของทองรูปพรรณ ทองแท่ง หรือซื้อผ่านกองทุนทอง เพื่อความปลอดภัยในการเก็บรักษาก็ได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่าการลงทุนมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละคนควรเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับตัวเอง ที่สำคัญคือ การลงทุนในความรู้ เพื่อที่จะพัฒนาวิสัยทัศน์ ความสามารถในการวิเคราะห์สภาพตลาด เศรษฐกิจและการเมืองของโลกได้อย่างรอบด้าน อันจะทำให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากยิ่งขึ้นได้

นรุ่นใหม่ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าของเงิน