การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 5 รูปแบบ ที่คนไทยนิยม

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 5 รูปแบบ ที่คนไทยนิยม

การลงทุนถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสร้างความมั่นคงในชีวิตในระยะยาว และหนึ่งในการลงทุนระยะยาวที่นักลงทุนส่วนใหญ่สนใจที่จะแบ่งเงินทำให้งอกเงยมากที่สุด ก็คือ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ประเภทของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็มีตั้งแต่การซื้อที่ดิน บ้าน อาคารชุด คอนโดมิเนียม ไปจนถึงการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่มีผู้บริหารจัดการกองทุนคอยดูแลให้อย่างมืออาชีพ

หากเราจะพูดถึงเฉพาะรูปแบบการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มนักลงทุนชาวไทย จะมีอยู่ด้วยกัน 5 รูปแบบ คือ

1.การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบเก็งกำไร
การเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ที่นิยมกันมาก ก็คือ การเก็งกำไรใบจองห้องชุด ซึ่งต้องเป็นห้องชุดหรือคอนโดมิเนียมในทำเลทองยอดนิยม มีความต้องการซื้อสูง เช่น ย่านสีลม ไอคอนสยาม แนวเส้นทางรถไฟฟ้า ฯลฯ การเก็งกำไรจากการขายต่อใบจองเป็นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากและได้ผลตอบแทนกลับมาเร็ว

2.การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบปล่อยเช่ารายเดือน
การลงทุนแบบนี้ เราต้องมีเงินลงทุนเบื้องต้นพอสมควร โดยเราต้องหาซื้อบ้านหรืออาคารชุดที่อยู่ในทำเลที่มีความต้องการเช่าอยู่อาศัยรายเดือน เช่น ใกล้มหาวิทยาลัย อยู่ใจกลางเมือง ใกล้แหล่งทำงาน เช่น โรงงาน ออฟฟิศต่าง ๆ หรือใกล้ระบบการคมนาคมที่สะดวกอย่างรถไฟฟ้า เป็นต้น

3.การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แบบปล่อยเช่ารายวัน
การลงทุนในลักษณะนี้อาจคล้ายกับการลงทุนในแบบที่ 2 เพียงแต่การเลือกทำเลของอสังหาริมทรัพย์ที่เราจะลงทุนมีความแตกต่างกัน คือ การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ปล่อยเช่ารายวัน ควรเลือกทำเลที่เราจะลงทุนในย่านท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพหรือตามจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม หรือธรรมชาติที่สวยงาม จะมีนักท่องเที่ยวมองหาที่พักแบบรายวันตลอดปี

4.การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์
สำหรับคนที่มีเงินลงทุนไม่มากหรือไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยงมากเกินไป การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อรับผลตอบแทนผ่านการบริหารกองทุนจากผู้จัดการกองทุนมืออาชีพก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง เพราะเราไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลอสังหาริมทรัพย์ด้วยตัวเอง เพียงแต่เราต้องศึกษาข้อมูลของอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนเข้าไปบริหารจัดการให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนเท่านั้น

5.การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาก่อนปล่อยขาย
มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อีกรูปแบบที่เป็นที่นิยมในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ ที่พอมีความรู้ในเรื่องการออกแบบตกแต่งหรือรีโนเวทให้ถูกใจคนซื้อ ด้วยการลงทุนในบ้าน อาคารหรือห้องชุดมือสองนำมาปรับปรุงใหม่ก่อนที่จะขายต่อหรือการซื้อที่ดินเปล่ามาพัฒนาเป็นพื้นที่บ้านพักผ่อนในต่างจังหวัดก็มีหลายคนที่นิยมทำกัน ปัจจัยสำคัญในการลงทุนรูปแบบนี้คือ ต้องการมีทีมดูแลเรื่องการก่อสร้างที่ดี ควบคุมต้นทุนได้ จะช่วยให้การลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก่อนขายต่อ ได้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ

การลงทุนใด ๆ มีความเสี่ยง แม้แต่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นถาวรวัตถุก็ตาม ดังนั้นการศึกษาหาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนจึงเป็นคำเตือนที่ผู้เชี่ยวชาญบอกไว้แก่นักลงทุนหน้าใหม่เสมอ ๆ

ลงทุนหุ้น-กองทุนด้วยพฤติกรรมแบบไหนต้องระวัง

ลงทุนหุ้น-กองทุนด้วยพฤติกรรมแบบไหนต้องระวัง

การลงทุนหุ้นและกองทุนเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่นิยม เพราะมีหนังสือสอนการลงทุนแพร่หลายมากมาย แนะนำวิธีการลงทุนให้มีรายได้เพิ่มควบคู่กับการทำงานประจำ

แต่ทั้งนี้ ก็มีพฤติกรรมการลงทุนบางอย่างที่ต้องระวัง เพราะจะทำให้คุณประสบความล้มเหลว ได้แก่

1. ลงทุนตามแฟชั่น

การลงทุนตามเทรนด์ความนิยมในช่วงนั้น ๆ โดยไม่มีความรู้จริง ๆ จะทำให้คุณไม่มีภูมิคุ้มกันในตัวเอง หากคุณชื่นชอบนักลงทุนระดับโลก เช่น วอเรน บัฟเฟต เมื่อศึกษาให้ดี จะรู้ว่าเขาใช้เวลาในการอ่านและศึกษาทำความเข้าใจกับระบบบัญชีที่แสดงถึงความมั่นคงของบริษัทก่อน หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในการลงทุนโดยเฉพาะด้านหุ้น คุณก็ต้องหาข้อมูลและเรียนรู้แบบมืออาชีพให้มาก

2. มั่นใจในความคิดของตัวเองมากเกินไป

การไม่ฟังคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ว่าจะได้เงินตอบแทนกลับมาสูง หากลงทุนสวนกระแสได้ หรืออาจมากจากการยึดติดกับความคิดเดิม ๆ ของตัวเอง จนเกิดการปิดกั้นความรู้จากผู้อื่น อาจทำให้เกิดการซื้อขายผิดพลาด ได้หุ้นในราคาที่สูงเกินจำเป็น หรือขายหุ้นในราคาต่ำเกินไป ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่หากมั่นใจมากเกินไป ก็อาจจะเป็นภัยที่ทำให้คุณไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเหมาะสมได้

3. ลงทุนแบบนักพนัน

การพนันต่าง ๆ นั้นโดยทั่วไปแล้วจะต้องอาศัยอุปนิสัย คือ กล้าได้กล้าเสียทุ่มเทหมดตัว โดยเฉพาะถ้าต้องการได้เงินที่สูญเสียไปกลับคืนมา ก็ต้องวางเดิมพันสูงขึ้น หากคุณนิสัยนั้นมาลงทุนในตลาดหุ้น หรือการซื้อกองทุนต่าง ๆ โดยไม่เผื่อเหลือเผื่อขาด เมื่อมีสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน เช่น เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ เกิดความขัดแย้งกันทางการเมืองระหว่างประเทศ แล้วส่งผลต่อค่าเงินในช่วงข้ามคืน คุณก็อาจจะเสี่ยงกับการหมดเงิน หรือหากขั้นรุนแรงก็อาจจะทำให้ล้มละลายได้เลยทีเดียว การกล้าได้กล้าเสียจึงต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมด้วย

4. ความตื่นตระหนกหวาดกลัวมากเกินไป

การลงทุนในตลาดหุ้นแบบมืออาชีพ คุณจะต้องไม่หวาดกลัวหรือตื่นตระหนกกับข่าวสารต่าง ๆ มากเกินไป เช่น เมื่อมีสงครามระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนเป็นข่าวดัง ทำให้คุณรีบขายหุ้นเร็วมากเกินไป ก็จะทำให้ได้ราคาเพียงครึ่งเดียวของที่ควรจะขายได้ในอนาคต คุณจึงเสียโอกาสได้เพิ่มมูลค่าของเงินในมือไป การหวาดกลัวเป็นสิ่งที่ดี ถ้าทำให้คุณรีบศึกษาข้อมูลและตัดสินใจหาแผนสำรองให้กับตัวเอง แต่การกลัวที่มากเกินไปอาจทำให้คุณเสียหายขั้นร้ายแรงได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่า การลงทุนที่ดีต้องประกอบไปด้วยความรู้และอุปนิสัยที่เหมาะสม จึงจะทำให้คุณประสบความสำเร็จอย่างมากในระยะยาว

พฤติกรรมการลงทุนบางอย่างที่ต้องระวัง