ในครึ่งปีหลัง 2022 สกุลเงินดิจิทัลยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่

ในครึ่งปีหลัง 2022 สกุลเงินดิจิทัลยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่

รูปแบบการลงทุนในปัจจุบันเริ่มมีความหลากหลายมากกว่าในอดีต ซึ่งรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากเพราะเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ดี ให้ผลตอบแทนสูงซึ่งเหมาะกับนักลงทุนรุ่นใหม่ที่ชอบความเสี่ยงและความท้าทาย พร้อมเรียนรู้กับรูปแบบการลงทุนใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เกิดนักลงทุนหน้าใหม่ ร่วมถึงแพลทฟอร์มที่ให้บริการการลงทุนด้านสกุลเงินดิจิตอลเกิดขึ้นมากมาย แต่ว่าตั้งแต่ช่วงปลายปีเป็นต้นมา วงการลงทุนในสกุลดิจิทัลกัลบต้องเผชิญกับความท้ายทายครั้งใหญ่มากมาย โดยสามารถรวบรวมเหตุการณ์สำคัญ ๆ ได้ดังนี้

การล่มสลายของสกุลเงิน LUNA สกุลเงินดิจิทัล LUNA เคยได้รับการขนานนามว่าเป็นสกุลเงินที่น่าจับตามอง ด้วยมูลค่าของเงินที่พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว แต่แล้วในปี 2021 สกุลเงินนี้ก็มีมูลค่าต่ำลงแบบชนิดที่เรียกได้ว่าดำดิ่ง เพราะจากที่เคยมีมูลค่าของเงินเทียบเท่ากับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แต่ในปัจจุบันกลับเหลือมูลค่าไม่ถึงเซ็นต์ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนเป็นมูลค่ามหาศาล

ความโปร่งใสของผู้ให้บริการการลงทุนเงินดิจิทัล ในปัจจุบันในประเทศไทยมีแพลตฟอร์มผู้ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่สำคัญอยู่ 2 รายคือ Bitkub และ Zipmex แต่ในขณะนี้ทั้ง 2 แพลตฟอร์มกำลังเผชิญปัญหาเรื่องการทำงานที่โปร่งใส โดย Bitkub ที่เคยถูกคาดหมายว่าจะเป็น Start up ไฟแรงของไทยจากการที่ธนาคารไทยพาณิชย์แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมทุน แต่แล้วดีลดังกล่าวก็ล่มด้วยข้อกล่าวอ้างว่าทาง Bitkub ไม่สามารถแสดงรายละเอียดกับทางไทยพาณิชย์ได้ชัดเจนพอ ส่วน Zipmex ก็มีปัญหาเรื่องการนำเงินของนักลงทุนไปลงทุนในต่างประเทศโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกด้วย

ค่าสกุลเงินดิจิทัลที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกคือ Bitcoin ได้ประสบปัญหาราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่าเกิดจากความไม่มั่นคงอันเนื่องมาจากภาวะสงครามรัสเซีย ยูเครน รวมถึงวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีทีท่าว่าสกุลเงินดิจิทัลจะฟื้นกลับขึ้นมาได้หรือไม่

ด้วยความผันผวนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าสกุลเงินดิจิทัลยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนอยู่หรือไม่ แต่นักวิเคราะห์หลายรายยังคาดหวังว่าสถานการณ์ของสกุลเงินดิจิทัลจะดีขึ้น ยิ่งมีผู้บริการแพลตฟอร์มรายใหม่อย่างกลุ่มทุนกัลฟ์ที่จะร่วมกับ Binance ผู้ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ของโลกที่คาดว่าจะพร้อมให้บริการในปีหน้า ก็ยิ่งแสดงถึงความน่าสนใจในการลงทุนของสกุลเงินดิจิทัลต่อไปในอนาคต

เริ่มลงทุนครั้งแรก ปี 2021 ควรเริ่มจากอะไรในยุคโควิด

ก้าวเข้าสู่ช่วงปี 2021 ที่ทรหดสุดๆสำหรับพ่อค้า-แม่ขาย และคนหาเช้ากินค่ำ หรือเรียกได้ว่าเป็นผลกระทบกับทุกคนเลยจริงๆ ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องลงทุนในช่วงยุคโควิดแบบนี้ ต้องเรียนรู้และใช้สติให้มาก เพราะนอกจากจะมีโรคระบาด เศรษฐกิจก็ย่ำแย่มากด้วย หากใครที่สนใจอยากจะลงทุนเพราะไม่อยากเก็บเงินไว้เฉยๆ ต้องมาอ่านบทความนี้ จะรวบรวมเกี่ยวกับการลงทุนที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของยุคสมัยนี้ด้วย 

การลงทุนในยุคโควิดจำเป็นต้องมีหลายตัวเลือก เพื่อกระจายความเสี่ยงให้กับเงินตัวเอง ซึ่งถ้าเรามีตัวเลือกที่เยอะมากเท่าไหร่ก็ส่งผลดีมากเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าการลงทุนมักจะมีความเสี่ยงเสมอ เราไม่สามารถการันตีได้ตั้งแต่เริ่มแรกว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน ก็เหมือนกับคนที่ชอบแทงบอล ส่วนใหญ่ก็จะศึกษาจากเซียน ฟันธงบอลวันนี้ เป็นแนวทางจะทำให้เรามีตัวเลือกทีมที่คิดว่าจะชนะได้ง่ายกว่าการวิเคราะห์เอง ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ถ้าเราไม่มีตัวเลือกอะไรเลย คิดแต่ว่าลงทุนให้ได้กำไรก็อาจจะทำให้เสียเงินที่ลงทุนไปได้ง่ายๆ

เทคนิคการลงทุนที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเพียงแค่ความรู้ส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับคนที่อยากลงทุนจำเป็นต้องมีช่องทางศึกษาให้ได้มากที่สุด นี่เป็นแค่แนวทางคร่าวๆที่จะช่วยให้คุณได้กล้าตัดสินใจและรับรู้ถึงความเสี่ยงและผลตอบแทนที่จะตามมา เราจะเปรียบเทียบให้คุณได้เห็นชัดมากขึ้นว่าในปี 2021 ควรจะลงทุนในรูปแบบไหนถึงจะเหมาะกับเศรษฐกิจแบบนี้

ลงทุนอะไรดี ในยุคโรคระบาด

หุ้น คือตราสารที่ออกโดยบริษัทห้างหุ้นส่วนและสหกรณ์ เปรียบเสมือนกับการเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ และเมื่อมีคนสนใจร่วมหุ้น กิจการก็จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทุนนิยมก็จะได้มาจากคนทั่วไป ไม่จำกัดว่าจะเป็นใคร ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันก็ได้ หรือจะเรียกง่ายๆก็คือ การเอาธุรกิจมาแบ่งขายเป็นส่วนๆนั่นเอง

เชื่อว่าคนที่กำลังศึกษาเรื่องการลงทุนน่าจะเคยผ่านมาบ้างแล้วเกี่ยวกับ หุ้น ซึ่งเป็นตัวเลือกแรกๆเลยของคนสมัยนี้ที่นิยมลงทุนกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องศึกษาให้ดีและรอบคอบมากเช่นกัน เพราะการลงทุนกับหุ้นถือว่ามีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะหุ้นของบริษัทต่างประเทศ หากสนใจอยากเล่นตัวไหนแนะนำให้ศึกษาไปทีละตัวแบบละเอียดจะดีกว่า ไม่ได้มีเพียงแต่คนที่ลงแล้วได้กำไรมหาศาลแต่คนที่ล้มละลายกับหุ้นไปเยอะก็มี ดังนั้นแนะนำว่าให้ซื้อแค่เพียงพอประมาณ แล้วเก็บเล็กเก็บน้อยเอาดีกว่า

ข้อดีของการเล่นหุ้น

เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ เพราะวิธีเริ่มต้นลงทุนสามารถทำความเข้าได้ง่าย และเริ่มเล่นด้วยตัวเองได้ ที่สำคัญเริ่มต้นได้จากทุนที่ไม่สูงมาก 

นักลงทุนนิยมเล่นกันเป็นจำนวนมาก เพราะทำเงินได้จริงๆ อีกทั้งเราสามารถเลือกลงทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงมากหรือน้อยได้ตามใจเรา 

มีข้อมูลให้ศึกษาหลายช่องทางมาก ทั้งทางอินเทอร์เน็ต หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านหุ้นหลายๆคนที่มีประสบการณ์แน่นๆ ช่วยให้เราศึกษาและเข้าใจได้ง่ายมาก

ข้อเสียของการเล่นหุ้น

มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลาตามสถานการณ์โลก ซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาทิศทางที่แน่นอนได้เลย อาจจะได้กำไรง่าย แต่ถ้าหากเกิดสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ไม่ดีก็อาจจะสูญเสียทั้งต้นทุนและกำไรที่ต่อยอดมานานก็ได้

ควรมีเงินเก็บสำรองไว้เยอะๆ เพราะถ้าหากลงทุนหนักแต่ดันไปตรงในจังหวะที่ไม่ดี ก็มีโอกาสที่จะเสียตั้งเต่เริ่มลงทุนครั้งแรก ดังนั้นควรจะเริ่มจากเล็กไปมากตามความเหมาะสมดีกว่า

ทองคำ นับว่าเป็นการลงทุนที่คนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เพราะว่าโอกาสขาดทุนมีน้อยมาก เนื่องจากราคาทองที่ขึ้น-ลง มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่ได้ลงหรือขึ้นจนน่าเกลียดเกินไป ไม่แปลกที่คนจะนิยมซื้อทองเก็บไว้แทนเงินสด ที่สำคัญวิธีซื้อไม่ได้ยุ่งยาก หาซื้อได้ตามร้านทองทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ทองรูปพรรณ หรือ ทองคำแท่ง และการเทรดทองคำใน Gold Spot และ Gold Future บางคนอาจจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง เพราะเป็นการซื้อขายเกร็งกำไรทองที่มีมาเนิ่นนานมากแล้ว จนมาถึงปัจจุบันก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ตลอด 

ข้อดีของการลงทุนทองคำ

ทองคำ เป็นที่ต้องการในตลาดโลกอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยเก่าจนมาถึงตอนนี้การลงทุนทองก็ยังเป็นตัวเลือกอันดับแรกเป็นส่วนใหญ่ของคนที่คิดจะทำการลงทุน เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ได้ทั้งใส่และเก็บ ยิ่งในยุคโควิดแบบนี้ทองมีโอกาสขึ้นราคาสูงมาก ต่างกับการเล่นหุ้นอย่างสิ้นเชิง

จากการคาดเดาราคาทองในอนาคตมีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาได้เรื่อยๆ ตามสถานการณ์หรือผลกระทบของบ้านเมือง จากราคาก่อนหน้านี้ที่จับต้องได้กลายเป็นราคาที่แพงมาก ซึ่งคนที่มีอยู่แล้วต้องการนำไปขายยังไงก็ได้กำไรเต็มๆ

มีทองเก็บถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะใช้ใส่ได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้อย่างเดียว หรือเรียกง่ายๆว่านำมาใช้ประโยชน์ได้หลายทางมาก โดยเฉพาะใช้เสริมบารมีตัวเอง

ข้อเสียของการลงทุนทองคำ

ความผันผวนของราคาทอง บางทีอาจจะทำให้เราคาดไม่ถึง สำหรับคนที่ต้องรับเร่งใช้เงิน ต้องศึกษาราคาทองให้ดี เพราะถ้าหากซื้อในตอนที่ทองแพงแต่มาขายตอนที่ทองลงก็ขาดทุนได้เยอะเหมือนกัน 

เสียเวลาเดินทางนิดหน่อย ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายได้ เพราะตามร้านทองมักจะมีโจรกรรมอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นต้องระวังตัวให้ดี

จำเป็นต้องใช้เงินก้อนซื้อ เพราะราคาทองคำมีถึงหลักพันและหลักหมื่น ซึ่งถ้าหากใครสนใจอยากลงทุนจริงๆแต่มีเงินน้อยก็ไม่สามารถซื้อได้

เหตุผลที่คนเงินน้อยควรเลือกออมหุ้น

เหตุผลที่คนเงินน้อยควรเลือกออมหุ้น

การเก็บออม ถือเป็นแผนการเงินที่ควรเริ่มต้นทำตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่ออนาคตที่มั่นคง ส่วนวิธีการที่จะสามารถเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมายโดยเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับวงเงินที่ตั้งใจจะเก็บออมในแต่ละเดือน ความเสี่ยงที่รับได้ และโอกาสรับผลตอบแทนในการออมเงินที่จะแตกต่างไปในแต่ละรูปแบบการออม

หากมีเงินเก็บออมในแต่ละเดือนไม่มาก เพราะเพิ่งเริ่มต้นทำงานและอายุยังน้อย แต่ต้องการผลตอบแทนเงินออมสูง ๆ ในอนาคต แนะนำให้เลือกวิธี “การออมหุ้น” ซึ่งถือเป็นการออมด้วยการลงทุน

การออมหุ้นคืออะไร

เป็นวิธีการลงทุนหุ้นสะสมไว้ในบัญชีของตนเอง (Port) เป็นประจำทุกเดือน เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนหุ้นที่สะสมไว้ก็จะเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสได้รับส่วนต่างของราคา (กำไร) สูงกว่า เมื่อเทียบกับการนำเงินจำนวนเท่ากันไปฝากไว้ในธนาคาร นอกจากนี้ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในระหว่างการออมหุ้น ด้วย ”เงินปันผล” ที่บริษัทจะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น หรือ สิทธิประโยชน์อื่น ๆ เช่น การให้หุ้นเพิ่มทุนกับผู้ถือหุ้น เป็นต้น

ทั้งนี้การเลือกหุ้นสำหรับโครงการออมหุ้นนั้น ส่วนใหญ่จะได้รับการแนะนำให้เลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต และแน่นอนว่าไม่ใช่หุ้นในกลุ่มเก็งกำไร หลายคนเลือกหุ้นจากกลุ่ม SET50 เพื่อเก็บออมไว้ในระยะยาว

วิธีการออมหุ้น

1. กำหนดวงเงินที่จะออมหุ้น ส่วนใหญ่บริษัทหลักทรัพย์ที่มีโครงการให้ออมหุ้นนั้น จะกำหนดวงเงินขั้นต่ำไว้ที่เดือนละ 1,000 บาท ซึ่งเป็นวงเงินลงทุนที่ไม่สูงมากและเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน ที่สำคัญการออมหุ้นหรือการซื้อหุ้นเก็บไว้นั้น ย่อมมีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง ซึ่งกลุ่มคนที่อายุน้อยจะเป็นกลุ่มที่รับความเสี่ยงได้ดีกว่าคนที่อายุมาก ดังนั้นจึงเป็นวิธีการเก็บออมที่เหมาะกับคนอายุน้อยและคนที่เพิ่งเริ่มทำงาน

2. กำหนดจำนวนหุ้นที่จะซื้อเก็บเข้า Port ของตัวเอง โดยปกติบริษัทหลักทรัพย์ที่เปิดโครงการให้ออมหุ้นจะกำหนดให้เลือกซื้อหุ้นเก็บได้เดือนละไม่เกิน 20 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตัวเดิม ๆ ในวันที่เดียวกันของทุกเดือน แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเก็บหุ้นด้วยวิธีนี้ อาจเริ่มด้วยการเก็บหุ้นไม่เกิน 2-3 ตัวก่อน เพื่อจะได้มีโอกาสศึกษาข้อมูลพื้นฐานหุ้นที่เลือกให้ชัดเจน เพราะไม่ว่าจะเลือกลงทุนด้วยวิธีใดก็ต้องทำความเข้าใจพื้นฐานของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ให้ดีเสมอ

3. เลือกวันเวลาในการซื้อหุ้น โดยกำหนดไว้ให้ชัดเจนว่าทุกวันที่ใดของเดือนที่จะให้บริษัทดำเนินการตัดเงินชำระค่าหุ้นที่จะออม ซึ่งจะมีการตัดบัญชีในวงเงินเท่า ๆ กันทุกเดือน เพื่อซื้อหุ้นในกลุ่มที่เลือกไว้ สะสมไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้ควรกำหนดให้ชัดเจนถึงบัญชีที่จะใช้ในการจ่ายเงินซื้อหุ้นและการรับเงินในกรณีที่บริษัทหุ้นนั้น ๆ จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นด้วย

สิ่งสำคัญสำหรับการออมหุ้น คือไม่ควรตื่นตระหนกกับการขึ้นลงของราคาหุ้นที่ออมไว้ เพราะเป้าหมายของการออมด้วยวิธีนี้คือการสร้างความมั่งคั่งในอนาคต การเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้นประจำวัน เป็นเรื่องที่จะต้องมองข้าม เพื่อรอผลตอบแทนที่ดี และกำไรเป็นกอบเป็นกำในอนาคต

การออมหุ้นคืออะไร

ลงทุนหุ้น-กองทุนด้วยพฤติกรรมแบบไหนต้องระวัง

ลงทุนหุ้น-กองทุนด้วยพฤติกรรมแบบไหนต้องระวัง

การลงทุนหุ้นและกองทุนเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่นิยม เพราะมีหนังสือสอนการลงทุนแพร่หลายมากมาย แนะนำวิธีการลงทุนให้มีรายได้เพิ่มควบคู่กับการทำงานประจำ

แต่ทั้งนี้ ก็มีพฤติกรรมการลงทุนบางอย่างที่ต้องระวัง เพราะจะทำให้คุณประสบความล้มเหลว ได้แก่

1. ลงทุนตามแฟชั่น

การลงทุนตามเทรนด์ความนิยมในช่วงนั้น ๆ โดยไม่มีความรู้จริง ๆ จะทำให้คุณไม่มีภูมิคุ้มกันในตัวเอง หากคุณชื่นชอบนักลงทุนระดับโลก เช่น วอเรน บัฟเฟต เมื่อศึกษาให้ดี จะรู้ว่าเขาใช้เวลาในการอ่านและศึกษาทำความเข้าใจกับระบบบัญชีที่แสดงถึงความมั่นคงของบริษัทก่อน หากคุณต้องการประสบความสำเร็จในการลงทุนโดยเฉพาะด้านหุ้น คุณก็ต้องหาข้อมูลและเรียนรู้แบบมืออาชีพให้มาก

2. มั่นใจในความคิดของตัวเองมากเกินไป

การไม่ฟังคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ว่าจะได้เงินตอบแทนกลับมาสูง หากลงทุนสวนกระแสได้ หรืออาจมากจากการยึดติดกับความคิดเดิม ๆ ของตัวเอง จนเกิดการปิดกั้นความรู้จากผู้อื่น อาจทำให้เกิดการซื้อขายผิดพลาด ได้หุ้นในราคาที่สูงเกินจำเป็น หรือขายหุ้นในราคาต่ำเกินไป ความมั่นใจเป็นสิ่งที่ดี แต่หากมั่นใจมากเกินไป ก็อาจจะเป็นภัยที่ทำให้คุณไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเหมาะสมได้

3. ลงทุนแบบนักพนัน

การพนันต่าง ๆ นั้นโดยทั่วไปแล้วจะต้องอาศัยอุปนิสัย คือ กล้าได้กล้าเสียทุ่มเทหมดตัว โดยเฉพาะถ้าต้องการได้เงินที่สูญเสียไปกลับคืนมา ก็ต้องวางเดิมพันสูงขึ้น หากคุณนิสัยนั้นมาลงทุนในตลาดหุ้น หรือการซื้อกองทุนต่าง ๆ โดยไม่เผื่อเหลือเผื่อขาด เมื่อมีสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน เช่น เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ เกิดความขัดแย้งกันทางการเมืองระหว่างประเทศ แล้วส่งผลต่อค่าเงินในช่วงข้ามคืน คุณก็อาจจะเสี่ยงกับการหมดเงิน หรือหากขั้นรุนแรงก็อาจจะทำให้ล้มละลายได้เลยทีเดียว การกล้าได้กล้าเสียจึงต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมด้วย

4. ความตื่นตระหนกหวาดกลัวมากเกินไป

การลงทุนในตลาดหุ้นแบบมืออาชีพ คุณจะต้องไม่หวาดกลัวหรือตื่นตระหนกกับข่าวสารต่าง ๆ มากเกินไป เช่น เมื่อมีสงครามระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนเป็นข่าวดัง ทำให้คุณรีบขายหุ้นเร็วมากเกินไป ก็จะทำให้ได้ราคาเพียงครึ่งเดียวของที่ควรจะขายได้ในอนาคต คุณจึงเสียโอกาสได้เพิ่มมูลค่าของเงินในมือไป การหวาดกลัวเป็นสิ่งที่ดี ถ้าทำให้คุณรีบศึกษาข้อมูลและตัดสินใจหาแผนสำรองให้กับตัวเอง แต่การกลัวที่มากเกินไปอาจทำให้คุณเสียหายขั้นร้ายแรงได้เช่นกัน

จะเห็นได้ว่า การลงทุนที่ดีต้องประกอบไปด้วยความรู้และอุปนิสัยที่เหมาะสม จึงจะทำให้คุณประสบความสำเร็จอย่างมากในระยะยาว

พฤติกรรมการลงทุนบางอย่างที่ต้องระวัง

ลงทุนทำอย่างไรให้มีรายได้หลักแสน

ลงทุนทำอย่างไรให้มีรายได้หลักแสน

เลิกผูกติดกับรายได้

เลิกผูกติดกับรายได้อย่างกับเงินเดือนของงานประจำที่ต้องออกทุกเดือน ควรเล็งแต่ผลที่ตอบแทนในระยะยาว อย่างเช่น กำไรปันผล ให้เข้าใจง่าย ๆ คือสร้างผลตอบแทน 100% ต่อปี ดีกว่าผลตอบแทนรายเดือนแค่ 5%

ลองจินตนาการถึงหุ้น

ซื้อหุ้น ให้ผลตอบแทน 5% เช่นลงทุนไป 10 ล้าน จะได้ปันผล 5 แสน/ปี หรืออาจจะซื้อคอนโดยูนิตละ 5 ล้าน แล้วเอามาปล่อยเช่า ได้ค่าเช่าเดือนละ 2 หมื่น คงจะเข้าใจได้ว่า ถ้าอยากมีรายได้เยอะ ให้เก็บเงินต้นให้เยอะขึ้น ก็คือเก็บเงินเดือนให้ได้เยอะ ๆ

ถ้ามีเงินน้อย แต่อยากได้เงินเยอะ ต้องมีความเสี่ยงมากขึ้น

การลงทุนต้องศึกษาให้มาก ๆ หากมีความรู้แล้วก็สามารถสร้างกำไรได้อย่างรวดเร็ว ขอแค่คุณมีความรู้ และมีประสบการณ์เยอะ ถ้าอยากได้เงินที่รวดเร็วก็ต้องฝึกหนัก ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ

เลิกคิดถึงแต่ผลตอบแทนที่ใช้ในการลงทุน

ไม่ควรคิดถึงแต่ผลตอบแทน ที่จะไม่ต้องทำอาชีพอื่น แต่ควรที่จะทำงานที่ตนเองรักไปด้วยพร้อมกับการลงทุน รายได้จากการทำงานจะช่วยลดความยากของการลงทุน

ลงทุน อย่างไรให้มีรายได้หลักแสน

คนยุคใหม่ ต้องลงทุนกับอะไร

คนยุคใหม่ ต้องลงทุนกับอะไรดี

ขึ้นชื่อว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงสองด้าน คือ ด้านที่ประสบความสำเร็จได้ผลกำไรที่งอกงาม และด้านที่ขาดทุน ต้องสูญเสียเงินต้นหรือไม่ได้กำไรสวยงามตามที่คาดหวังไว้

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีเงินอยู่กับตัวแล้ว ก็ไม่ควรปล่อยให้โอกาสแห่งการลงทุนผ่านเลยไป เรามาดูกันว่าคนรุ่นใหม่ควรลงทุนอะไรจึงจะดี

คนยุคใหม่ ต้องลงทุนกับอะไร

ลงทุนกับธนาคารแบบฝากประจำ

เป็นการลงทุนที่ง่ายที่สุด ไม่ต้องคิดเยอะ เพราะมีความเสี่ยงต่ำ ดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการความมั่นใจว่าเงินต้นที่ฝากไปจะไม่สูญหายอย่างแน่นอน

ลงทุนลักษณะประกันควบคู่กับการออม

เป็นการบังคับให้ตนเองออมเงินเป็นประจำรายเดือนหรือรายปี ซึ่งยังได้ประโยชน์ด้านสิทธิ์ในการคุ้มครองต่าง ๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยต้องนอนโรงพยาบาล ดังนั้นหากต้องการส่งเสริมวินัยการออมแก่ตัวเองและวางแผนการลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ควรพิจารณาการลงทุนแบบนี้ไว้ด้วย

ลงทุนระยะยาวกับกองทุน Long Term Fund

เป็นการลงทุนที่เหมาะกับมือใหม่ที่อยากผันตัวมาเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น สามารถชิมลางกับการศึกษาหุ้นผ่านกองทุน LTF สะดวกตรงที่ไม่ต้องคอยติดตามหุ้นชนิดเกาะติดหน้าจอ เพราะทางสถาบันการเงินจะมีผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่แทนเรา เมื่อครบเวลาก็รอรับผลตอบแทนจากกองทุนที่เราเลือกไว้ได้เลย

คนยุคใหม่ ต้องลงทุนกับอะไรดี

ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Set trade หรือตลาดหลักทรัพย์ เป็นที่ที่สามารถนำเงินก้อนที่มีไปลงทุนให้เกิดกำไรงอกเงยได้อย่างรวดเร็ว และขณะเดียวกันก็สามารถทำให้เงินก้อนที่มีนั้นหมดไปได้ในพริบตา ดังนั้น การลงทุนประเภทนี้จึงต้องสะสมความรู้และประสบการณ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงจะสามารถประสบความสำเร็จในการลงทุนกลุ่มนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้น หรือระยะยาวก็ตาม

ทั้งนี้ สามารถเลือกรูปแบบการลงทุนในตลาดหุ้นได้หลากหลาย เช่น

– ลงทุนแนววีไอ หรือเน้นคุณค่าของมูลค่าธุรกิจรอรับดอกผลในระยะเวลาหลายเดือน หรือหลายปี

– ลงทุนแบบสม่ำเสมอด้วย การถัวเฉลี่ยการซื้อหุ้นแบบ DCA หรือ dollar Cost Average เช่น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุกเช้าวันจันทร์ ซึ่งจะทำให้ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้

– ลงทุนอย่างรวดเร็วฉับไวด้วยตัวเอง ผ่านโปรแกรมสตรีมมิ่ง โดยประสานงานด้านการซื้อขายกับโบรกเกอร์ด้วยก็ได้ วิธีนี้จะได้การอำนวยความสะดวก และมีผู้แนะนำการซื้อขายหุ้นให้ตลอดเวลาด้วย

จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ ทั้งนี้จะเลือกลงทุนแบบใดก็ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถยอมรับได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่สถาบันทางการเงินจะช่วยในการประเมินก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ต้องลงทุนกับอะไรดี

Stock Market

สิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ควรรู้ หากจะลงทุนหุ้น

การลงทุนหุ้นในบางครั้งสำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จ ย่อมได้กำไรกลับคืนมาอย่างมหาศาล และความสำเร็จเหล่านี้จึงกลายมาเป็นอาหารตาอาหารใจ ของเหล่านักลงทุนมือใหม่ ที่กำลังค้นหาช่องทางดี ๆ ให้กับตนเอง และการลงทุนหุ้น ก็ยังคงเป็นช่องทางเด่น ๆ ที่นักลงทุนมือใหม่ต่างก็พยายามที่จะไขว่คว้า เพื่อที่จะได้เดินทางสายการลงทุนในช่องทางนี้ แต่ทว่า หากคุณพลาดเพียงแค่นิดเดียว ย่อมที่จะต้องพบเจอกับความเสี่ยงเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น การป้องกันและการลดความเสี่ยงที่ดี คือการค้นหาและศึกษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการลงทุนหุ้นให้ดีเสียก่อน หลังจากนั้นคุณควรเดินหน้าและทำการตัดสินใจให้เด็ดขาด ว่าจะทำการลงทุนในรูปแบบนี้หรือไม่ ส่วนสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ควรรู้เกี่ยวกับการลงทุนหุ้น มีดังต่อไปนี้

หุ้น คืออะไรกันนะ ?

หุ้น ถือได้ว่าเป็นตราสารรูปแบบหนึ่ง ซึ่งกิจการส่วนใหญ่ได้ทำการออกให้แก่ผู้ถือโดยตรง เพื่อที่จะนำมาใช้ในการระดมเงินทุน เพื่อนำไปใช้ภายในกิจการอีกที ซึ่งผู้ถือหุ้นจำเป็นจะต้องมีฐานเป็น “เจ้าของ” และมีส่วนได้ส่วนเสียพร้อมทั้งมีสิทธิภายในทรัพย์สิน พร้อมทั้งรายได้ของกิจการร่วมด้วย ซึ่งผลตอบแทนที่จะได้มาหลังจากที่กิจการมีกำไรเกิดขึ้น นั้นก็คือ “เงินปันผล” ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากวันใดวันหนึ่งกิจการกลับมีผลการดำเนินงานที่เป็นไปในลักษณะที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ แถมราคาหุ้นก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จะยังคงสามารถทำกำไรซึ่งได้จากส่วนต่างของราคาได้อีกด้วย

การลงทุนหุ้น คือทางออกสำหรับผู้ที่มีเงินไม่มากเท่าไหร่นัก

หลายต่อหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า การลงทุนหุ้น ถือได้ว่าเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับกลุ่มคน หรือแม้กระทั่งเจ้าของกิจการส่วนใหญ่ ที่มีทุนทรัพย์แต่ไม่มากเท่าไหร่นัก หากพวกเขาต้องการที่จะได้เป็นเจ้าของกิจการดี ๆ การลงทุนหุ้น ถือได้ว่าเป็นช่องทางที่จะสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้

ในส่วนของผลตอบแทนผ่านการลงทุนหุ้น ถือได้ว่าเป็นผลตอบแทนที่มีลักษณะไม่ค่อยแน่นอนเท่าไหร่นัก เพราะทุกอย่างย่อมขึ้นอยู่กับผลของการดำเนินงานของกิจการนั้น ๆ โดยตรง ถ้าหากกิจการกลับมีปัญหาถึงขั้นต้องล้มละลายไป ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ก็จะได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ ที่สำคัญ คุณจะได้รับเงินทุนคืนก็ต่อเมื่อทางกิจการ ได้ทำการจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดเรียบร้อยแล้วเท่านั้น และนี่ก็คือความเสี่ยงที่นักลงทุนมือใหม่จะต้องทำความเข้าใจให้ดีก่อนทำการลงทุนด้วย เนื่องจากไม่มีใครที่จะสามารถรับรองได้ว่า คุณจะประสบความสำเร็จผ่านการลงทุนหุ้นในแต่ละครั้งหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ เมื่อคุณได้ทำการลงทุนครั้งใด ย่อมมีความเสี่ยงรายล้อมรอบตัวคุณทันทีอย่างแน่นอน

เล่นเก็งกำไร

เทรดเดอร์สายเก็งกำไร ต้องทิ่มให้ถูกจับหวะ

ตอนแรกกะว่าจะจ่อหัวข้อด้วยคำว่านักเก็งกำไรในหุ้น แต่แท้จริงแล้วปัจจุบันมันไม่ได้มีแค่เรื่องของการเก็งกำไรในตลาดหุ้นเท่านั้นที่ได้รับความนิยม แต่ตลาดค่าเงินอย่าง Forex หรือตลาดเก็งกำไรอื่นก็ได้รับผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน จึงต้องขอใช้คำว่าเทรดเดอร์สายเก็งกำไรน่าจะเหมาะสมกว่า

นักลงทุนสายเก็งกำไรนั้น คือนักลงทุนที่ใช้ในรูปแบบฉาบฉวยมาสร้างความมั่งคั่งในตนเอง บางคนก็จะไม่ได้เรียกกลุ่มเทรดเดอร์เหล่านี้ว่าเป็นนักลงทุน เพราะมันคือการทำเงินจากการลงทุนช่วงสั้นๆ ตรงนี้ก็จะแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ไม่มีข้อถูกหรือผิด แล้วแต่ว่าเราคิดในเรื่องของคำจำกัดความ “ลงทุน” นั้นกว้างมากแค่ไหน สำหรับตัวผู้เขียนจะถือว่าการเก็งกำไรเป็นการลงทุนในรูปแบบหนึ่ง

เทรดทำกำไร

ศึกษารูปของกราฟให้เข้าใจก่อนลงสนาม

การที่เราจะเป็นนักเก็งกำไรในรูปแบบเทรดเดอร์นั้น อย่างแรกเลยจะต้องรู้จากรูปแบบของกราฟแต่ละโครงสร้าง ว่ามีทิศทางอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นคลื่นหรือ Head & Shoulder หรือรูปแบบอื่น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมีสอนการตามหนังสือหุ้นสายเทคนิค ถามว่ารูปเหล่านั้นมันเป็นเกิดขึ้นได้อย่างไร แท้จริงมันมาจากในเรื่องของจิตวิทยาด้วย เมื่อเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ศึกษาเนื้อหาเดียวกัน รูปแบบเหล่านั้นก็มักจะเกิดขึ้นซ้ำซ้อนกันอยู่อย่างสม่ำเสมอจากฝีมือเหล่าเทรดเดอร์นั่นเอง

ประเด็นก็คือ… ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ามันจะขึ้นไปถึงจุดไหน และจะลงไปถึงจุดไหน แม้โครงสร้างรูปแบบของกราฟนั้นถึงแม้จะมีรูปแบบออกมาเหมือนตามหนังสือสอนเทคนิคต่างๆ คือ Elliott Wave ที่มีคลื่นสามลูกหรือห้าลูกก็ตาม มันจะมีโครงสร้างรูปออกมาเหมือนกัน แต่ความยาวของแต่ละคลื่นนั้นจะแตกต่างกัน นี่คือหัวใจหลักเลย ถ้าเข้าถูกจุดก็กำไร ถ้าเข้าผิดก็ต้องรู้จักตัดขาดทุน

ตรงนี้ถ้าเราอยากจะเป็นเทรดเดอร์สายเก็งกำไรมากกว่าการลงทุนระยะยาว จำเป็นจะต้องศึกษาให้ดีก่อนลงมือเล่น เพราะว่า การเก็งกำไรนั้น ในหนึ่งเดือนสามารถทำกำไรได้เป็น 1000% จากเงินต้นของเรา แต่ในทางกลับกันมันก็สามารถหมดได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน จะเรียกว่าเป็นช่องทางรวยทางลัดก็ได้ แต่ต้องใช้ประสบการณ์และฝีมือเข้ามาช่วย จับให้ถูกจังหวะ เข้าในเวลาที่เหมาะสม และตัดขาดทุนให้เป็น การลงทุนในรูปแบบเก็งกำไรก็ไม่อยากเกินตัวแล้ว